|
为什么中国人说话那么大声? ทำไมคนจีนถึงพูดจาเสียงดังขนาดนั้นล่ะ 5 ]2 n9 ~4 i$ O6 J" M
5 X0 _( M; F7 G" {4 G茉莉:跟泰国人聊天的时候,我说话很温柔。跟中国人聊天的时候,聊着聊着就变大声了。 มะลิ : เวลาที่คุยกับคนไทย ฉันจะพูดจาอ่อนหวานมาก แต่ตอนที่คุยกับคนจีน คุยไปคุยมาเสียงกลับดังขึ้นซะงั้น 8 q* S1 H3 Q% N! ~) u
8 C8 Z/ e; m' @; {9 Z; T1 f
王伟:哈哈哈,我也是啊。很多中国朋友发现我说话声音变小了,怀疑我变成人妖了。你怎么看待这个问题呢? หวางเหว่ย : ฮ่าๆๆ ผมก็เหมือนกัน เพื่อนคนจีนหลายคนก็รู้สึกว่าผมพูดเสียงเบาลง แถมยังสงสัยว่าผมกลายเป็นตุ๊ดไปซะแล้ว เธอคิดยังไงกับปัญหาเรื่องนี้ล่ะ
5 S: I. ]3 M3 G% h
$ r+ S% W3 _8 e. F茉莉:从语音学的角度来看,汉语的韵母没有闭口音,说话的时候易放难收,一不小心就吐沫横飞。 มะลิ : ถ้ามองจากมุมของสัทศาสตร์ สระในภาษาจีนไม่มีเสียงกัก เวลาพูดคล่องมากแต่จะหยุดลำบาก ถ้าไม่ระวังก็จะพูดจนน้ำลายแตกฟองเลยทีเดียว 6 \' q6 `0 z7 E$ k
% M' K* A: g- t, q3 R王伟:在学泰语的时候,我也发现泰语发音很细致温柔,而且常常遇到闭口尾音,如กดบม,说话的时候,我深厚的内功还没有来得及释放出来就要闭嘴了,哈哈。 หวางเหว่ย : ตอนเรียนภาษาไทย ผมก็รู้สึกว่าการออกเสียงในภาษาไทยจะเอียดอ่อนและนุ่มนวลมาก ยิ่งไปกว่านั้นมักจะมีเสียงตัวสะกดที่เป็นเสียงกัก เช่น “ก, ด, บ, ม” เวลาพูด กำลังภายในอันแก่กล้าของผมยังไม่ทันจะปล่อยออกมา ก็ต้องหุบปากซะแล้ว ฮ่าๆ
+ ?5 K1 i% i6 L' {% h0 P a" [1 ]3 ?& D. r9 r& W+ o! s
茉莉:另外,汉语的四声比泰语的五声要响亮的多。汉语的声调普遍上升,泰语的声调普遍下降。比较汉语和泰语的第一声就能发现。 มะลิ : อีกอย่าง วรรณยุกต์ ๔ เสียงในภาษาจีน ยังดังกังวานกว่าวรรณยุกต์ ๕ เสียงของภาษาไทยอยู่มาก เสียงวรรณยุกต์ในภาษาจีนโดยทั่วไปแล้วจะขึ้นสูง แต่เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยปกติจะลงต่ำ เมื่อลองเปรียบเทียบเสียงวรรณยุกต์แรกของภาษาจีนและภาษาไทยก็จะเห็นได้ " S+ T8 j4 w7 d( A5 \9 @4 F
$ @1 j# |, T0 Q+ z6 R6 @
王伟:还可以从社会文化角度来看,中国文化推崇雄伟大气,不像泰国文化喜欢精致小巧。字正腔圆、充满能量的说话,在中国人看来是自信的表现。 หวางเหว่ย : นอกจากนี้ยังสามารถมองจากมุมของสังคมและวัฒนธรรมได้อีกด้วย วัฒนธรรมจีนเชิดชูความยิ่งใหญ่มโหฬาร ไม่เหมือนกับวัฒนธรรมไทยที่ชื่นชอบความประนีต กระจุ๋มกระจิ๋ม สำหรับคนจีนแล้ว การออกเสียงชัดถ้อยชัดคำและมีพลัง เป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเอง
: x% ~/ y; L* i; x. O- d8 r7 d4 J5 z$ i3 \- @4 \
茉莉:泰国人喜欢温柔甜美,刚开始去中国的时候还以为中国人在吵架呢,差一点被吓到了。 มะลิ : คนไทยชอบความนุ่มนวลอ่อนหวาน ตอนที่ไปจีนแรกๆ ฉันยังนึกว่าคนจีนทะเลาะกันอยู่ซะอีก เกือบใจหายใจคว่ำหมด / i3 P' m7 S% t, B8 n3 w
+ M& B5 B* j) O王伟:其实还有礼貌的原因。一般来说城市人比农村人文明。虽然今天的中国城市人口已经超过农村人口,但大部分人是在农村长大的,特别是我们的父母基本上都是农民。 หวางเหว่ย : ที่จริงยังมีเหตุผลเรื่องมรรยาทอีก ปกติคนเมืองจะมีมารยาทมากกว่าคนชนบท ถึงจำนวนประชากรจีนในเมืองตอนนี้แซงหน้าจำนวนของคนชนบทไปแล้ว แต่คนส่วนใหญ่เติบโตที่บ้านนอก โดยเฉพาะพ่อแม่เราส่วนใหญ่ก็เป็นชาวไร่ชาวนาทั้งนั้น 8 B/ Y3 c. L! r
$ M/ w; \) D" y& J9 ]
茉莉:农村人热心但是粗鲁,城市人文明但是冷漠。随着中国城市化进程,以后中国人恐怕都会变成千人一面的城市人了。 มะลิ : คนชนบทมีน้ำใจแต่ทำอะไรบุ่มบ่าม คนเมืองมีมารยาทก็จริงแต่จะเย็นชาต่อกัน จากการที่จีนพัฒนาประเทศเข้าสู่ความเป็นเมือง อีกหน่อยคนจีนดูท่าจะกลายเป็นคนเมืองที่เป็นพิมพ์เดียวกันไปหมด $ [0 U+ V$ A5 H1 B4 g
6 R( G6 g8 y# d* r% z
王伟:是啊,社会的发展会影响人们的说话。以后你想保持内心平静就说泰语,想展现自信、释放能量就说中文吧。 หวางเหว่ย : นั่นน่ะสิ การพัฒนาของสังคมจะส่งผลกระทบต่อการพูดจาของคน ต่อไปถ้าเธออยากจะรักษาความสงบของจิตใจเอาไว้ ก็พูดภาษาไทย แต่ถ้าอยากจะแสดงตัวตน ปลดปล่อยพลังออกมา ก็พูดภาษาจีนนะ
' P/ S* `7 H* H$ l: D
8 H8 x m5 Y0 [4 y5 ]8 U. r0 l启发:农村地广人稀,大声说话营造热闹氛围。城市拥挤不堪,不克制自己就会影响他人。 แง่คิด : ชนบทมีพื้นที่กว้างแต่มีประชากรน้อย การพูดจาเสียงดังสามารถสร้างบรรยากาศให้คึกคักได้ แต่ในเมืองใหญ่แออัดสุดจะทน หากไม่ควบคุมตนเองก็จะส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น
( \: ~* o; Z9 k' ^, m; q* H8 j, Z
7 k: |) [# Z: R& {ผู้เรียบเรียง:shilaoshi, ผู้แปล:jj_chen |
|